การตรวจสอบแบบไม่ทำลาย NDT
การตรวจสอบด้วยอนุภาคแม่เหล็ก MT
-เป็นการทดสอบเพื่อหารอยร้าวบริเวณผิวของชิ้นงาน โดยใช้หลักการของแม่เหล็ก
-การตรวจสอบโดยอนุภาคแม่เหล็ก (Magnetic Particle Testing : MT) ใช้กับวัสดุเฟอร์โรแมกเนติก ได้แก่ เหล็ก นิกเกิล และโคบอลท์ สิ่งบกพร่องที่อยู่บนผิววัสดุ ผงแม่เหล็กจะจัดเรียงตัวตามรอยร้าว สิ่งบกพร่องอยู่ใต้ผิวเล็กน้อย ผงแม่เหล็กจะจัดเรียงตัวอย่างไม่เป็นระเบียบ
-การเกิดสนามแม่เหล็กไฟฟ้า ตามกฎของสนามแม่เหล็ก : เมื่อมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน ตัวนำจะทำให้เกิดสนามแม่เหล็กขึ้น และจะเหนี่ยวนำชิ้นทดสอบที่เป็นแม่เหล็กด้วยเช่นเดียวกัน
-ถ้าหน้าตัดของชิ้นงานมีเส้นแรงแม่เหล็กไหลผ่าน แล้วมีบริเวณรอยความไม่ต่อเนื่องของชิ้นงาน จะส่งผลให้มีเส้นแรงแม่เหล็กบางส่วนหลุดออกนอกชิ้นงาน เรียกว่า ฟลักซ์รั่ว (Leakage Flux)
-ฟลักซ์รั่วที่บริเวณรอยความไม่ต่อเนื่องจะมีขนาดกว้างกว่าของจริงและสามารถดูดติดอนุภาคที่เป็นวัสดุเฟอร์โรแมกเนติกได้ ดังนั้น บริเวณฟลักซ์รั่วจึงเป็นบริเวณรวมกันของผงเหล็กจึงทำให้สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่าชัดเจน
-ฟลักซ์รั่วจะเกิดได้ดีเมื่อทิศทางของเส้นแรงแม่เหล็กตั้งฉากกับทิศทางของรอยความไม่ต่อเนื่อง
วิธีการทดสอบ
-นำชิ้นงานมาเช็ดให้สะอาดด้วยสาร Cleaner
-เหนี่ยวนำให้วัสดุที่จะทดสอบมีสนามแม่เหล็ก นำเครื่อง Yoke มากดทับผิวชิ้นงาน แล้วกดสวิตช์ประมาณ 5 วินาที
-นำผงแม่เหล็กมาโรยหรือฉีดตามผิวของชิ้นงาน
-บริเวณรอยร้าว รอยแตก จะทำให้การไหลของแม่เหล็กขัดข้อง เกิดฟลักซ์รั่วดึงดูดผงโลหะก็จะรวมตัวกันบริเวณรอยแยกนั้น และจะสามารถมองเห็นได้ภายใต้แสงสว่าง
อนุภาคผงแม่เหล็ก
การตรวจสอบด้วยอนุภาคแม่เหล็ก MT
(Magnetic Particle Testing)
ข้อดี
-สามารถพบสิ่งบกพร่องที่ผิวและใต้ผิวได้เล็กน้อย
-ใช้เทคนิคไม่ซับซ้อน
-วิเคราะห์ผลง่าย
-สามารถตรวจสอบชิ้นงานที่มีอุณหภูมิสูงๆ ได้
-มีความไวต่อการพบรอยร้าวขนาดเล็กสูง
-ค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบไม่สูง
ข้อเสีย
-มีข้อจำกัดด้านวัสดุที่ตรวจสอบได้เนื่องจากตรวจได้เฉพาะกับวัสดุเฟอร์โรแมกเนติกเท่านั้น
-ต้องตรวจสอบอย่างน้อย 2 ทิศทางเพื่อความสมบูรณ์
-ไม่เหมาะกับสิ่งบกพร่องที่เป็นจุด
-การลงทุนซื้อเครื่องจักรครั้งแรกสูง