การวัดความแข็งแบบ Shore,การทดสอบความแข็งแบบ Shore (Shore Hardness Test)

5 วันที่ผ่านมา

โดย เจ้าของร้าน

Durometer หรือ วัดความแข็งแบบ Shore เป็นหนึ่งในเครื่องมือวัดความแข็งของวัสดุ การทดสอบความแข็งวิธีนี้ถูกคิดค้นโดย Albert F. Shore ในปี 1920 ส่วนใหญ่การวัดความแข็งแบบ Shore มักจะใช้กับวัสดุประเภทโพลิเมอร์ ยาง เป็นต้น

Durometer มีหลายสเกลสำหรับการเลือกใช้ให้เหมาะสมกับวัสดุ ตามมาตรฐาน ASTM D2240-00 ได้แบบออกเป็น 12 Scale ดังนี้ A, B, C, D, DO, E, M, O, OO, OOO, OOO-S, และ R โดยเรียงลำดับจากความแข็งน้อยไปมาก(A ไป R ) แต่ละสเกลมีค่าตั้งแต่ 0-100

ในส่วนของ Type R เป็นการทดสอบที่พิเศษกว่าแบบข้างต้น เพราะใช้แผ่นรองรูปวงกลมแบน (presser foot configuration) ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง18 ± 0.5 mm. (0.71 ± 0.02 in)ในการทดสอบความแข็งวัสดุ ส่วนแรงสปริงและ Indentor นั้นยังคงเหมือนเดิม

รูป Durometer Type R

ตามมาตรฐาน ASTM D2240 ได้กำหนดให้ใช้ Type R คู่กับ Type อื่น ๆ โดยมีสัญลักษณ์ดังตัวอย่างไปนี้เช่น aR , dR เป็นต้น

จากตารางจะเห็นว่า ท้ายที่สุดแล้วค่าความแข็งวัดได้นั้นขึ้นอยู่กับความลึกของ Indentor ที่กดทำต่อชิ้นงานที่ทดสอบเป็นเวลา 15 วินาที ตัวอย่างเช่น Indentor จมลงในชิ้นงานทดสอบ 2.54 mm (0.100 inch) หรือมากกว่านั้นแสดงว่าค่าความแข็ง Scale นั้นเป็น 0 แต่ถ้า Indentor ไม่จมเลยค่าความแข็งของ Scale นั้นเท่ากับ100

วิธีทดสอบความแข็ง Shore Sclerocscope วัดความแข็งในเทอมความยืดหยุ่นของวัสดุ ทดสอบโดยปล่อยหัวค้อนปลายเพชร (ขนาด 40 เกรน,2.5กรัม,090914 ออนซ์)ตกด้วยน้ำหนักของตัวเองและจากความสูงที่ทราบค่า (10นิ้ว,254 มิลลิเมตร) ในท่อแก้ว ความสูงที่กระดอนกลับวัดได้จากสเกลที่ได้แบ่งเป็น 100 ส่วน ซึ่งแสดงค่าเฉลี่ยจากการกระดอนของเหล็กกล้าคาร์บอนชุบแข็งที่สมบูรณ์ ความสูงกระดอนจะมาก ความแข็งก็จะมาก วัสดุที่อ่อน ความสูงกระดอนจะน้อย ความแข็งก็จะน้อย

การทดสอบแบบ Shore Durometer ใช้หัวกดชุบแข็ง สปริงที่ได้ปรับค่าอย่างถูกต้อง ความลึกของหัวกด และแผ่นกด หัวกดจะถูกติดตั้งตรงกลางของฐานกดและมีระยะยืดตัว 2.5 มม. จากผิวของฐานตำแหน่งระยะยืดตัวเต็มที่เข็มชี้แสดงค่าศูนย์ เมื่อหัวกดถูกกดจนกระทั่งแนบติดผิวหน้าฐานกด ตัวบ่งชี้แสดงค่า 100 ดังนั้นทุกๆจุดของ Shore มีค่าเท่ากับ ระยะกด 0.0025 มม. (สเกล M เท่ากับ 0.00125 มม.)